ปีศาจรัตติการ...ดราคูลา

 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก    |  
 

(Root) 200975_41897.gif

โรคตื่นแวมไพร์ในศตวรรษที่ 18

 

(Root) 200974_82073.jpg

 
ตำนานแวมไพร์เป็นที่คุ้นเคยกับซีกโลกต่างๆมานมนาน แต่เชื่อมั๊ยว่า อังกฤษเพิ่งรู้จักแวมไพร์เอาเมื่อศตวรรษที่ 18 นี้เอง ช่วงนั้นโรคกลัวแวมไพร์ระบาดหนักในยุโรปตะวันออกลามมาถึงอังกฤษ ชาวบ้านชาวช่องกลัวกันมาก ขนาดเดินไปไหนมาไหนยังต้องมีพวงกระเทียมแขวนคอไปด้วย มีการโต้เถียงกันระหว่างกลุ่มผู้นำว่าเรื่องนี้เป็นไปได้จริงหรือไม่ และควรใช้นโยบายใดทำให้บ้านเมื่องสงบลง สมัยนั้นการสื่สารยังไม่เจริญนัก แต่ก็น่าแปลกที่ข่าวลือกระจายข้ามประเทศอย่างรวดเร็ว บางเรื่องก็เป็นตลกร้ายที่เหลือเชื่อเอามากๆ เช่น กองทัพแวมไพร์บุกเข้าพระราชวังในฮังการเล่นงานจนทหารและคนในวังเป็นแวมไพร์กันหมด แม้แต่ข่าวที่ว่าพระราชวังเครมลินเต็มไปด้วยแวมไพร์ก็ยังมีออกมา ของแถมที่มากับข่าวลือก็คือ การออกล่าแวมไพร์ มีคนถูกย่างสดไม่เว้นแต่ละวันในข้อหาเป็นแวมไพร์ หลายรายถูกทรมานอย่างทารุณก่อนเอาลิ่มตอกอก สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวแวมไพร์ของชาวยุโรปได้เป็นอย่างดี

ไม่ว่าแวมไพร์จะมีจริงหรือไม่ก็ตาม เจ้าสิ่งนี้ถือเป็นตัวเสนียดขนานแท้เพราะแม้แต่ตำนานของมันก็ยังสร้างจุดด่างในประวัติศาสตร์เอาไว้มากมาย ถึงยังงั้น ก็ยังมีคนบางจำพวกที่พฤติกรรมโหดร้าย สังหารผลาญชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน นับว่าน่ารังเกียจกว่าแวมไพร์ซะอีก

 (Root) 200975_41557.gif

แวมไพร์ (Vampire) ผีชนิดหนึ่งตามความเชื่อของชาวยุโรป ในยุคกลาง เชื่อว่าเป็นผีดิบ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหารเพื่อหล่อเลี้ยง โดยที่แวมไพร์จะมีชีวิตเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย จะปรากฏตัวได้แต่เฉพาะเวลากลางคืน เพราะกลางวันแพ้เเสงแดด แวมไพร์จะหลบซ่อนอยู่ในโลงของตนหรือในหลุมในเวลากลางวัน สามารถแปลงร่างได้หลายแบบ เช่น ค้างคาว, นกฮูก, หมาป่า, กบ, คางคก, แมลงเม่า, งูพิษ เป็นต้น สามารถกำบังกายหายตัวได้ ไม่มีเงาเมื่อกระทบกับแสงหรือสะท้อนในกระจก มีแรงมากเหมือนผู้ชาย 20 คน สิ่งที่จะกำราบแวมไพร์ได้คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เช่น ไม้กางเขน, น้ำมนตร์ หรือแม้กระทั่งสมุนไพรกลิ่นแรงบางชนิด เช่น กระเทียม วิธีฆ่าแวมไพร์มีมากมาย เช่น ตอกลิ่มให้ทะลุหัวใจ เผา หรือ ตัดหัวด้วยจอบของสัปเหร่อ บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของมัน จะกลายเป็นแวมไพร์ไปด้วย และกลายเป็นสาวกของแวมไพร์ตนที่ดูดเลือดตัวเอง

ชาวยุโรปในยุคกลางนั้น หวาดกลัวแวมไพร์มาก ผู้ที่สงสัยว่าเป็นแวมไพร์ จะตกอยู่ในสถานะเดียวกับแม่มด หรือ มนุษย์หมาป่า คือ ถูกตัดสินลงโทษด้วยการเอาถึงชีวิต มีวิธีการป้องกันการรุกรานของแวมไพร์หลายวิธี เช่น บางหมู่บ้านจะโปรยเมล็ดข้าวไว้บนหลังคาบ้าน เพราะเชื่อว่าแวมไพร์จะง่วนกับการนับเมล็ดข้าวเป็นการถ่วงเวลาจนรุ่งเช้า หรือ โรยเศษขนมปังไว้ตั้งแต่สุสานให้แวมไพร์เดินเก็บเศษขนมนั้นวนเวียนไปมา หรือแม้แต่การวางไม้กางเขนหรือดอกกุหลาบที่มีหนามแหลมเพื่อเป็นการพันธนาการไว้ในโลง

เรื่องราวของผีแวมไพร์ มีมากมาย ที่เป็นนิทานพื้นบ้านและวรรณกรรม โดยวรรณกรรมที่ว่าถึงแวมไพร์ที่เก่าแก่ที่สุด มีมาตั้งแต่สมัยโรมัน วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของแวมไพร์คือ เรื่องเค้าท์แดร็กคูล่าร์ ของ บราม สโตกเกอร์ ที่โด่งดังจนมีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ละคร ละครเวที หรือแม้แต่กระทั่งภาพยนตร์การ์ตูนมากมายตราบจนปัจจุบัน เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Nosferatu ในปี ค.ศ. 1922 เป็นต้น

เป็นไปได้ว่าความเชื่อเรื่องของแวมไพร์ที่สามารถแปลงร่างเป็นค้างคาวได้ อาจมีที่มาจากที่ทวีปอเมริกากลาง มีค้างคาวขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ดูดเลือดสัตว์ที่ใหญ่กว่าเป็นอาหารในเวลากลางคืน ซึ่งค้าวคาวชนิดนี้ก็ได้มีการเรียกชื่อว่า แวมไพร์ เช่นกัน

 

ไม่ว่าแวมไพร์จะมีจริงหรือไม่ก็ตาม เจ้าสิ่งนี้ถือเป็นตัวเสนียดขนานแท้เพราะแม้แต่ตำนานของมันก็ยังสร้างจุดด่างในประวัติศาสตร์เอาไว้มากมาย ถึงยังงั้นก็เถอะคะ ยังมีคนบางจำพวกที่พฤตกรรมโหดร้าย สังหารผลาญชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน นับว่าน่ารังเกียจกว่าแวมไพร์ซะอีก

 

 (Root) 200975_41771.gif

 


Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 23,572 Today: 8 PageView/Month: 54

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...